November 28, 2023

ฝุ่น PM2.5 กลับมาแล้ว ! ซักผ้าอย่างไรให้ปลอดฝุ่น

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษออกมาเตือนว่ากรุงเทพและปริมณฑลมีแนวโน้มที่ฝุ่น PM2.5 จะกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานอย่างมาก แต่ยังไงเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านได้อยู่ดี เพราะกิจวัตรประจำวันหลาย ๆ อย่างก็ยังคงต้องดำเนินการต่อ ทำให้เราต้องหาวิธีป้องกันมลพิษทางอากาศเบื้องต้นด้วยการหยิบหน้ากาก N95 มาสวมใส่และระวังสุขภาพให้มากขึ้น

ซึ่งนอกจากเราจะต้องระวังการสูดดมฝุ่น PM2.5 แล้ว ก็อย่าลืมไปว่าฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่มากับสิ่งสกปรกนั้นมีโอกาสที่จะเกาะติดตามเสื้อผ้าของเราได้อีกด้วย ส่งผลให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวและเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพ วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีซักผ้าให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 มาให้แล้ว ทำตามกันได้ง่าย ๆ ไปดูกันเลย!

วิธีซักผ้าให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5

เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่อมฝุ่น

เนื่องจากเนื้อผ้าแต่ละชนิดนั้นสามารถอมฝุ่นได้มากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติในการดูดซับน้ำของเนื้อผ้าชนิดนั้น ๆ ยิ่งซับน้ำได้น้อยก็จะอมฝุ่นมาก แต่ถ้าซับน้ำได้มากก็จะอมฝุ่นน้อย โดยผ้าใยสังเคราะห์ก็ถือว่าเป็นเนื้อผ้าที่ดูดซับน้ำได้น้อยมาก จึงทำให้เป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี ไม่เหมาะแก่การสวมใส่ในสถานการณ์ที่ค่าฝุ่น PM2.5 กำลังพุ่งสูง เพราะอาจทำให้ฝุ่นเข้าร่างกายได้ง่ายและส่งผลเสียต่อสุขภาพ ส่วนเนื้อผ้าที่เหมาะกับการสวมใส่ในสถานการณ์ที่มีค่าฝุ่นสูง ๆ คือ เนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยฝ้ายหรือผ้าคอตตอน ซึ่งเป็นเนื้อผ้าที่ดูดซับน้ำได้มาก อมฝุ่นได้น้อยที่สุด สามารถช่วยปกป้องคุณจากฝุ่น PM2.5 ได้นั่นเองค่ะ

งดการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

อย่างที่บอกข้อแรกว่าเนื้อผ้าที่ซับน้ำได้น้อยก็จะอมฝุ่นมาก ส่วนเนื้อผ้าที่ซับน้ำได้มากก็จะอมฝุ่นน้อย ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มนี่แหละตัวดีเลย แม้ว่าจะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นหอมและลดกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ แต่น้ำยาปรับผ้านุ่มมีคุณสมบัติลดการอมน้ำของเนื้อผ้า ทำให้เนื้อผ้าอมน้ำได้น้อย ฝุ่นเกาะติดเสื้อผ้าของคุณได้นานขึ้น ดังนั้นในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 กำลังพุ่งสูง คุณควรงดการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เน้นอบผ้าให้แห้งสนิทและสะอาดก็เพียงพอ โฟกัสเรื่องกลิ่นหอมให้น้อยลง เพื่อลดผลเสียที่อาจทำลายสุขภาพในอนาคตค่ะ

เลือกใช้เครื่องอบผ้า

ควรเลือกใช้เครื่องอบผ้าแทนการตากผ้าไว้นอกบ้าน เพราะการตากผ้าไว้นอกบ้านนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้ฝุ่นเข้ามาเกาะติดตามเนื้อผ้าของคุณได้ง่ายสุด ๆ ยิ่งถ้าตากผ้าไว้เป็นเวลานานก็จะยิ่งสะสมฝุ่น PM2.5 ได้มากเท่าขึ้นนั้น เสื้อผ้าเกิดความสกปรกและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างคาดไม่ถึง เราจึงแนะนำว่าให้เลือกใช้เครื่องอบผ้าที่มีเทคโนโลยีลดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียได้อย่างสะอาดหมดจด

แต่ถ้าใครยังไม่มีเครื่องอบผ้าคุณภาพดีให้ใช้งาน WASHENJOY ก็มีเครื่องอบผ้าอันดับ 1 ของโลก มาให้ทุกคนได้ลองเลือกใช้กัน นั่นคือ Electrolux Professional แบรนด์เครื่องอบผ้าจากสวีเดน ที่มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีเครื่องอบผ้ามานานกว่า 120 ปี มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีอยู่เสมอมั่นใจได้เลยว่าผ้าของคุณจะแห้งสะอาดหมดจด ผ้านุ่ม หอม ฟู อย่างแน่นอน

จุดเด่นของเครื่องอบผ้า Electrolux Professional

  • ไม่ต้องง้อแดด ไม่ต้องกลัวฝน ใช้เวลาน้อยนิด ผ้าแห้งไวภายใน 24 นาที
  • ระบบใช้อุณหภูมิถึง 70 องศา ฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่นจาก PM2.5 ได้อย่างสะอาดหมดจด
  • ถังหมุน 2 ทิศทาง ไม่ต้องกลัวผ้าจะพันกัน ช่วยให้อบผ้าแห้งได้ไวมากยิ่งขึ้น
  • มีระบบ Cooling ที่ช่วยถนอมคุณภาพเนื้อผ้า ได้ผ้าที่นุ่ม หอม ฟู หมดกังวลเรื่องผ้ายับได้เลย!

หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ซักผ้าให้สะอาดหมดจด ไร้กลิ่นเหม็นอับ ปราศจากเชื้อโรค ใช้เวลาซักและอบไม่ถึงชั่วโมง ได้เสื้อผ้ากลับมาไวพร้อมใส่ในเวลาอันรวดเร็ว ต้องลองมาใช้บริการที่แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ WASHENJOY Electrolux Professional เราพร้อมให้บริการคุณ 24 ชั่วโมงค่ะ

ตรวจสอบสาขาบริการใกล้บ้านคุณ หรือหากสนใจร่วมธุรกิจลงทุนร้านซักผ้ากับเรา 

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ www.washenjoythai.com

โทรศัพท์ : 098-902-6659
Line Official Account : @washenjoy
Email : info@washenjoythai.com
Website : www.washenjoythai.com
Facebook : WASHENJOY Thailand

บทความอื่น ๆ

ดูทั้งหมด