ความยุ่งยากเมื่อเปิดร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสำหรับมือใหม่

          เมื่อต้องดำเนินธุรกิจอะไรสักอย่างก็ตาม เชื่อว่าหลายครั้ง ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับ ‘ปัญหา’ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่การเกิดของปัญหาก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเช่นกัน และสำหรับผู้ที่กำลังสนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

วันนี้ได้มัดรวม ‘ปัญหา’ กับการ ‘รับมือ’ ที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อทำแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เพื่อเตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อมกับปัญหาได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ รวมทั้งความท้าทายใหม่ๆ ที่มีโอกาสจะเข้ามา มาเริ่มกันเลย

1. การสวมบทเป็นช่าง การทำแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไม่ใช่เพียงแค่มีเงินลงทุนก้อนหนึ่งและเปิดดำเนินกิจการได้เท่านั้น แฟรนไชส์ซี (Franchisee) จะต้องสวมบทเป็นช่างที่หลากหลาย ทั้งช่างประปา ช่างไฟฟ้า พนักงานทำความสะอาด นอกเหนือจากนักธุรกิจและนักการตลาดแล้ว เพราะเมื่อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เครื่องอบผ้า เกิดมีปัญหาขึ้นมาบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องใช้บริการจากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ แต่เราสามารถใช้ทักษะพื้นฐานในการตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงเบื้องต้นได้ก่อน
   
   
             การเตรียมความพร้อมในด้านนี้ แฟรนไชส์ซี (Franchisee) เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรมีทักษะพื้นฐานด้านช่างซ่อมบำรุง และมีความรู้และความเข้าใจเครื่องซักผ้าเป็นพื้นฐาน เช่น การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า เป็นต้น ทักษะที่มีอยู่นั้นจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และไม่พลาดกับโอกาสเมื่อเครื่องเกิดมีปัญหา แถมยังช่วยในการลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี
   
   
             แต่เมื่อลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกับ WASHENJOY Electrolux Professional เรามีทีมซ่อมบำรุงที่มีความเชี่ยวชาญจำนวนมาก ที่คอยให้บริการผู้ลงทุนร้านซักผ้าที่ประสบกับปัญหาเครื่องซักผ้าอยู่ทั่วประเทศ เพื่อคอยให้บริการแก้ปัญหาให้กับแฟรนไชส์ซี่ได้ภายใน 48 ชม.  นอกจากนี้เรายังมีการรับประกันเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า 5 ปี รับประกันอะไหล่ 2 ปี รับประกันงานติดตั้ง 1 ปี และบริการตรวจสอบสภาพเครื่องทุก 3 เดือนเป็นเวลา 3 ปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมและบำรุงให้กับ Franchisee ได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงกับการเผชิญปัญหาเครื่องซักผ้าและอบผ้ามีปัญหา
   
   
2. การบริหารต้นทุนค่าสาธารณูปโภค แนวโน้มค่าสาธารณูปโภคที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟที่ในปี 2565 โดยค่าเอฟทีปรับขึ้นเป็น 4 บาทต่อหน่วย หรือการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 จะถูกจัดเก็บเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิมอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 23.38 สตางค์ต่อ (อ้างอิงข้อมูล จาก https://www.tnnthailand.com/news/social/112602/) ซึ่งยังไม่รวมค่าน้ำที่ธุรกิจต้องใช้ในปริมาณค่อนข้างมากในแต่ละวัน ดังนั้นปัญหาค่าสาธารณูปโภคจึงเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจ
   
   
             การเตรียมความพร้อมรับมือ เมื่อก้าวมาเป็นแฟรนไชส์ซี (Franchisee) ก่อนลงทุนควรเลือกแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบที่มีประสิทธิภาพที่ดี มีระบบการใช้พลังงานที่ประหยัดไฟฟ้าและน้ำ เพื่อสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีกำไร ขณะที่การเลือกสถานที่ก่อนที่จะลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรเช็คค่าสาธารณูปโภคให้ดีเสียก่อนที่จะลงทุนนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่ลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกับ WASHENJOY Electrolux Professional ซึ่งเป็นเครื่องซักผ้าอบผ้า อุตสาหกรรม Electrolux Professional อันดับ 1 ของโลก เรามีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 10 เท่า จึงประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน

‍

3. รับมือกับการบริการลูกค้า แม้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และเป็น Self Service หรือลูกค้าต้องบริการด้วยตัวเองก็ตาม แต่จริงๆ การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะต้องคอยรับมือกับการให้บริการลูกค้า อาจต้องเผชิญกับปัญหาลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่เข้าใจวิธีการใช้งาน สิ่งที่แฟรนไชส์ซีควรจะตั้งรับและมีวิธีการรับมือกับปัญหาเหล่านี้ เช่น การจัดทำข้อความอธิบายถึงวิธีการใช้งานง่ายๆ สั้นๆ กระชับและได้ใจความ สำหรับการใช้งานเครื่องซักผ้าและเครื่องอบของ WASHENJOY Electrolux Professional ถูกดีไซน์ออกมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยมีเพียงแค่ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ทำให้จะวัยไหนก็เข้าใจได้ไม่ยากนั่นเอง
   
   
4. เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง การให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ บางครั้งอาจต้องเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการลืมเสื้อผ้าบางครั้งเป็นชั่วโมงหรือบางครั้งนานหลายวัน ซึ่งเสื้อผ้าอาจจะสูญหายได้ หรือกระทั่งเสื้อผ้าที่ซักเกิดความเสียหาย เช่น สีตกเสื้อผ้าตัวอื่นๆ ที่ซักร่วมกัน
   
   
             เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่แฟรนไชส์ซีต้องตั้งการ์ดรับมือให้ดี เช่น การสื่อสารด้วยข้อความในกรณีที่ลูกค้าลืมเสื้อผ้า อาจจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหาย หรือข้อแนะนำวิธีการซักผ้าที่ผู้เข้ามาใช้บริการควรปฏิบัติ เช่น ควรแยกการซักผ้าระหว่างผ้าสีกับผ้าขาว หรือกระทั่งประเภทของเสื้อผ้าที่สามารถใช้เครื่องอบและการใช้ไฟในการอบผ้าที่เหมาะสม ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแฟรนไชส์ซีได้อย่างมาก คือ การลงทุนติดกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามหรือตรวจสอบกับสถานการณ์ เป็นต้น แต่เมื่อลงทุนกับ WASHENJOY Electrolux Professional เครื่องของเราพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพช่วยซักผ้าให้ขาวสะอาด ไม่ทิ้งคราบขาวให้เสียลุค แถมน้ำยาปรับผ้านุ่มช่วยลดกลิ่นอับ ตลอดจนมีการป้อนข้อมูลความรู้แนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการซักผ้าผ่านโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่องและมีทริคใหม่ๆ อยู่ตลอด
   
   
5. ต้องอัพเกรดอุปกรณ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงแฟรนไชส์ซีจะมีต้นทุนการบริหารจัดการที่สูงขึ้น จากการที่ต้องลงทุนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญหรือแม้กระทั่งเครื่องอบผ้ารุ่นใหม่ ก็เพื่อมอบบริการที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าและสร้างประสบการณ์ใหม่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในร้านมากขึ้น
   
   
             อย่างไรก็ดี ตามปกติแล้วการอัพเกรดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ แฟรนไชส์ซีจะทำทุกๆ 14-15 ปี แต่เมื่อลงทุนกับ WASHENJOY Electrolux Professional เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำเพื่อสนองกับพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ประสิทธิภาพเครื่องที่มีความทนทานต่อการใช้งาน มีระบบการชำระเงินทั้งหยอดเหรียญกับ QR โค้ด ตอบโจทย์กับโลกของ Cashless society และระบบ Web Manager ที่ใช้บริหารร้านออนไลน์ ทำให้ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องอัพเกรดเครื่องอยู่ตลอดเวลา
   
   
6. การแข่งขันสูง ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรการแข่งขันก็สูงเสมอ เช่นเดียวกับแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ดังนั้นก่อนการลงทุนควรหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน เริ่มตั้งแต่การสำรวจบริเวณรอบๆ มีการเปิดให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกี่แห่ง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเปิดให้บริการจะมีดีมานด์เกิดขึ้น รวมทั้งโอกาสการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาใช้บริการ ตลอดจนการศึกษาโมเดลธุรกิจของแฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในด้านแผนธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ ที่สนับสนุนการทำธุรกิจและเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันได้ดีเยี่ยมหรือเหนือกว่ากับคู่แข่งหรือไม่ นอกจากนี้แฟรนไชส์ซีควรรู้หลักการให้บริการในด้านต่างๆ การทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ เพื่อดึงดูดใจลูกค้าเข้ามาใช้บริการและสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้น
   
   
             แต่เมื่อลงทุนกับ WASHENJOY Electrolux Professional แฟรนไชส์สะดวกซักระดับพรีเมี่ยม เราหาทำเลให้ผู้ลงทุนฟรี พร้อมประเมินศักยภาพและวางแผนธุรกิจ และมีทีมแผนการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญที่ช่วยสนับสนุนให้แฟรนไชส์ซี่สามารถแข่งขันได้เหนือกว่าคู่แข่งที่อยู่ในตลาด
   
   
7. ต้นทุนค่าเช่าสถานที่ ถือว่าเป็นต้นทุนที่เป็นตัวแปรสำคัญเลยทีเดียว หากเปิดให้บริการไปแล้วต้องเสี่ยงกับค่าเช่าที่ปรับสูงขึ้น และโยกย้ายสำหรับผู้ที่ทำแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและก่อให้เกิดรายจ่ายงอกเงยตามมาอีกเพียบ ดังนั้นก่อนการลงทุนแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะต้องคำนวนรายได้และกำไรที่จะเกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งการเจรเจา การทำสัญญากับเจ้าของสถานที่ด้วยความรอบคอบ
   
   
             อย่างไรก็ดีเมื่อลงทุนร้านซักผ้ากับ WASHENJOY Electrolux Professional เรามีทีมงานที่ให้คำปรึกษาในด้านทำเล นอกจากนี้ยังจับคู่ธุรกิจกับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น บนทำเลมาแรง เพื่อให้ผู้สนใจลงทุนได้เลือกสรรทำเลที่มีศักยภาพมากมาย โดยสามารถเปิดร้านสะดวกซักในพื้นที่ใกล้ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ทำเลดีมีคนเยอะ ที่จอดรถพร้อม พื้นที่กว้าง รองรับลูกค้าตลอด 24 ชม.
   
   
             ‘ปัญหา’ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรมองให้เป็นความท้าทาย การตั้งการ์ดเตรียมพร้อมรับมือปัญหาในการทำธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนำพาธุรกิจให้สามารถไปต่อได้และประสบความสำเร็จสร้างรายได้และกำไรได้อย่างยั่งยืน

‍

‍

สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนกับ WASHENJOY Electrolux Professional สอบถามรายละเอียดได้ที่

โทรศัพท์ : 098-902-6659

Line Official Account : @washenjoy

Email : info@washenjoythai.com

Website : www.washenjoythai.com

Facebook : WASHENJOY Thailand

YouTube : WASHENJOY Thailand

‍