ลงทุนร้านซักผ้าแบบสะดวกซัก อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่ง WASHENJOY Electrolux Professional พร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จอย่างมั่นคง
เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการดำเนินชีวิตประจำวันทุกวัน ย่อมต้องได้รับการดูแลและรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอนว่าจะสามารถป้องกันได้อย่างเด็ดขาดเมื่อไร ทำให้การซักทำความสะอาดเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ให้ปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อการซักผ้าเป็นหนึ่งในงานบ้านที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเองหรือไม่ได้ใช้บริการซักรีดด้วยแล้ว เชื่อว่าคงต้องใช้แรงและเวลาอย่างมาก ในการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในบ้านอื่น ๆ ด้วยมือ แต่ถือว่าทางออกของปัญหานี้ได้คลี่คลายสำหรับหลายท่านที่ไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเองแล้วในปัจจุบัน เพราะสามารถใช้บริการซักผ้าแบบหยอดเหรียญได้ ซึ่งมีทั้งแบบเครื่องซักผ้าฝาบนที่ให้บริการทั่วไปตามใต้หอพักหรืออพาร์ตเมนต์ต่าง ๆ ตลอดจนบริการแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ หรือที่เรียกว่าร้านสะดวกซัก เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการซักผ้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นช่องทางในการทำธุรกิจสำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนร้านซักผ้าด้วยเช่นกัน
แต่แม้แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะเปิดให้บริการเครื่องซักผ้าที่ลูกค้าสามารถให้บริการตัวเอง (Self Service) ได้เหมือนกันกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยในการให้บริการที่แตกต่างกันในหลายส่วน ท่านใดที่กำลังสนใจจะลงทุนร้านซักผ้าอยู่ WASHENJOY Electrolux Professional มีข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างที่ควรรู้มาฝากในบทความนี้แล้ว
ความแตกต่างของแฟรนไชส์เครื่องซักผ้ากับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป
- ด้านประสิทธิภาพการทำความสะอาดของเครื่องซักผ้า
สิ่งแรกที่แตกต่างกันระหว่างแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป นั่นก็คือ ประเภทของเครื่องซักผ้าที่ให้บริการ โดยเบื้องต้น เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไปส่วนใหญ่ จะใช้เครื่องซักผ้าฝาบนซึ่งใช้งานตามบ้านทั่วไป (Home-use Grade) ขนาดความจุถังซักตั้งแต่ประมาณ 8 ก.ก. – 14 ก.ก. แล้วนำมาติดกล่องสำหรับหยอดเหรียญชำระค่าบริการ จากนั้นระบบก็จทำการซักทำความสะอาดและปั่นหมาดให้เสร็จ ผู้ใช้ก็สามารถนำไปกลับไปตากที่บ้านหรือห้องพักของตนเองต่อได้
ในขณะที่แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะใช้เครื่องซักผ้าที่มีคุณภาพเกรดอุตสาหกรรมหรือเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ (Industrial Grade หรือ Commercial Grade) ซึ่งมีความทนทานมาก สามารถรับงานซักที่หนักและต่อเนื่องยาวนานได้ รวมถึงมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ล้ำลึกกว่า ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่โดดเด่น ตัวอย่างเช่น
• ขนาดความจุของถังซัก มีให้เลือกใช้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ขนาด 9 ก.ก. ไปจนถึงขนาดถังใหญ่ 28 ก.ก. รวมถึงมีตู้อบผ้าซึ่งจะทำให้ผ้าแห้งได้ทันทีโดยไม่ต้องตาก ขนาด 17 ก.ก. และ 30 ก.ก. จึงรองรับต่อการซักผ้าจำนวนมากหรือมีขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี
• มีระบบซักน้ำอุ่น เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่มีในเครื่องซักผ้าเกรดอุตสาหกรรมเพิ่มเติมจากระบบซักน้ำเย็นธรรมดาในเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป โดยน้ำร้อนและน้ำอุ่นจะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงทำให้ผ้าที่อาจมีคราบต่าง ๆ นั้นสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะกับบ้านเรา เพราะเมืองไทยตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศที่ร้อนชื้น การดำเนินชีวิตที่ต้องเผชิญทั้งกับความร้อน ที่ทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สัมผัสกับเหงื่อไคลผสมกับฝุ่นควันและมลภาวะต่าง ๆ ทำให้การทำความสะอาดเสื้อผ้า ต้องเน้นการซักที่สะอาดล้ำลึก หรือบางช่วงที่อากาศชื้นเพราะฝนตก หากตากผ้าในที่ร่มก็จะทำให้ผ้าเกิดกลิ่นอับชื้นได้ง่าย และถ้าผ้าแห้งไม่สนิทก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้อีกด้วย การที่แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญมีเครื่องอบ ก็จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ให้กับลูกค้าได้
• ความรวดเร็วในการซัก เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่เป็น Home-use Grade สำหรับใช้ตามบ้านทั่วไป จะใช้เวลาในการซักต่อครั้งประมาณ 50 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง และต้องนำไปตากให้แห้งซึ่งก็ใช้เวลาขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้น ๆ ด้วย หากฝนตกหรือมีอากาศชื้นก็ทำให้ผ้าแห้งช้า และเสี่ยงต่อการเกิดกลิ่นอับ ในขณะที่เครื่องซักผ้าของแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่เป็น Industrial Grade นั้น ใช้เวลาในการซักหรืออบประมาณ 20-30 นาที หรือหากใช้ทั้งซักและอบก็รวมเวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง แม้จะใกล้เคียงกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป แต่ก็ทำให้ลูกค้าได้ผ้าที่แห้ง สะอาด พร้อมใส่ ไม่ต้องเสียเวลาในการตากผ้า และด้วยเวลาซักที่สั้น เสร็จไว ทำให้เจ้าของธุรกิจร้านสะดวกซักก็สามารถให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น ยิ่งถ้าหากร้านอยู่ในทำเลที่ดี ก็จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน
- ด้านต้นทุนในการลงทุนและอัตราค่าบริการ
การลงทุนร้านซักผ้าทั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไปและแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ นอกจากประเภทเครื่องซักผ้าที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีต้นทุนอื่น ๆ ที่ต้องใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงานดูแล ค่าซ่อมบำรุง และค่าสถานที่ ซึ่งก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การลงทุนร้านซักผ้าระหว่างสองรูปแบบนี้มีต้นทุนที่ต่างกัน โดยธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไปอาจโฟกัสแค่ที่เครื่องซักผ้าและหาสถานที่ตั้งเครื่องไว้ ทำให้มีต้นทุนต่ำกว่า แต่ก็ต้องเน้นเรื่องการดูแลรักษาเองและอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าที่สั้นกว่ามาก เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายในบ้านอย่างเดียว ไม่ได้รองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการใช้น้ำใช้ไฟที่สูงกว่าในขณะที่การลงทุนร้านซักผ้าที่เป็นแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญก็อาจจะมีการที่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ไปกับค่าเครื่องซักผ้าและค่าตกแต่งสถานที่ในตอนเริ่มต้นธุรกิจเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะมีต่อเดือนก็จะมีแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 3% ของค่าบริการที่จะเก็บได้ ซึ่งหากคุณไม่ได้ต้องเสียค่าเช่าสถานที่ อีกทั้งเป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องจ้างคนมาเฝ้าร้าน ก็ถือว่าเป็นต้นทุนที่ต่ำมากเลยทีเดียว และที่สำคัญสามารถเปิดให้บริการได้ตลอดเวลา พร้อมต้อนรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการเมือ่ไรก็ได้ คุณจึงสามารถทำเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ในส่วนของอัตราค่าบริการ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไปที่เป็น Home-use Grade จะมีค่าบริการเฉลี่ยอยู่ที่ราคา 20 บาท ขึ้นอยู่รุ่นของเครื่องและความจุ ตลอดจนเจ้าของผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนด ส่วนของแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญร้านสะดวกซัก จะเริ่มต้นที่ 40 บาท ไปจนถึงหลักร้อยบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่อง อุณหภูมิของน้ำ หรือเลือกโหมดในการซักแบบฆ่าเชื้อ บางร้านมีน้ำยาซักผ้าให้บริการฟรี ซึ่งถือว่าเป็นบริการที่คุ้มค่ากว่าทั้งในความสะอาด ฟังก์ชันการใช้งาน และเป็นจุดที่ดึงดูดใจให้ลูกค้าใช้บริการได้เป็นอย่างดี
- ด้านมาตรฐานการให้บริการ
ถ้าโดยส่วนใหญ่แล้ว ความยากง่ายในการใช้บริการซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าฝาบน หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้าของแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญก็ล้วนออกแบบระบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทุกเพศ ทุกวัย สามารถทำการซักผ้าด้วยตนเองได้ง่ายที่สุด เพียงแค่ใส่ผ้า เติมน้ำยา แล้วก็จ่ายเงินด้วยการหยอดเหรียญ เพื่อเริ่มต้นการซัก แต่สำหรับแฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้นจะมีโปรแกรมการซักทำความสะอาดให้ลูกค้าเลือกใช้งานได้มากกว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า และยังเป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ สร้างผลกำไรให้กับเจ้าของผู้ลงทุนร้านซักผ้าได้ด้วยนอกเหนือจากด้านความสะอาดและความรวดเร็วในการซักผ้าที่ร้านสะดวกซักแล้ว ยังมีความสะดวกสบายในการใช้บริการด้านอื่น ๆ ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้มากกว่าบริการซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป
ตัวอย่างเช่นการลงทุนร้านซักผ้ากับ WASHENJOY แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่มีจุดเด่นในการให้บริการด้านต่าง ๆ ที่มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญทั่วไป เช่น
• มีบริการแลกเหรียญ สำหรับหยอดเครื่องซักผ้า ด้วยตู้แลกเหรียญอัตโนมัติ
• มีน้ำยาซักผ้าให้ฟรี เป็นน้ำยา ECOLAB คุณสมบัติอ่อนโยนไม่ระคายเคือง คุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา
• บรรยากาศร้านสวย สะบาย สะอาด ลูกค้าสามารถนั่งรอในร้านได้ และโต๊ะสำหรับพับ จัดเก็บผ้าอย่างสะดวก
• มีแอปพลิเคชัน รองรับการจ่ายเงินออนไลน์ และมีระบบสะสมพอยต์คะแนน ที่ลูกค้าจะได้รับคะแนนทุก ๆ ครั้งที่ซักผ้า และสามารถนำคะแนนมาใช้จ่ายแทนเงินสดสำหรับการซัก-อบภายในร้านได้เท่านั้น ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการซ้ำอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
สำหรับในมุมของเจ้าของธุรกิจที่ใช้แฟรนไชส์เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ WASHENJOY ก็ไม่ต้องกังวลกับบริการหลังจากที่ลงทุนร้านซักผ้าไปแล้ว เพราะมีทีมงาน Call Center ให้บริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีทีมช่างซ่อมบำรุงพร้อมให้บริการทั่วประเทศภายใน 48 ชั่วโมงด้วย แบ่งเบาภาระการทำงานของคุณให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
และท้ายที่สุดแล้ว การจะเลือกลงทุนร้านซักผ้าแบบใด ระหว่างแฟรนไชส์เครื่องซักผ้ากับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไป ก็ขึ้นอยู่กับมุมมอง ความพร้อม และปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งการลงทุนร้านซักผ้าแบบสะดวกซัก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่ง WASHENJOY พร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงได้
สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนกับ WASHENJOY Electrolux Professional
สอบถามรายละเอียดได้ที่
www.washenjoythai.com
https://www.facebook.com/washenjoythai/
โทร. 098-902-6659
Line Official : @washenjoy